กระจอกงอกง่อย, กระจัดพลัดพราย

กระจอกงอกง่อย, กระจัดพลัดพราย

กระจอกงอกง่อย

หมายถึง : ไร้ซึ่งประสิทธิภาพ มีแต่คนรังเกียจ

ยากจนข้นแค้น ไม่มีความน่านับถือ




กระจัดพลัดพราย

หมายถึง : ไม่รวมอยู่ในพวกเดียวกัน กระจัดกระจาย

ไม่มีชิ้นดีแตกกระสานซ่านเซ็น

กรวดน้ำคว่ำกะลา, เก๋าเกมส์

กรวดน้ำคว่ำกะลา,  เก๋าเกมส์

กรวดน้ำคว่ำกะลา

หมายถึง : ตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย ไม่ยุ่งเกี่ยว

ไม่อยากสนใจ ความหมายเดียวกับ กรวดน้ำคว่ำขัน



 เก๋าเกมส์

หมายถึง : เจนจัด ประสบการณ์สูง

รอบรู้มาก นำมาเพื่อประโยชน์ ต่างๆ

ก้มหน้า ก้มตา, กบเลือกนาย

ก้มหน้า ก้มตา, กบเลือกนาย


ก้มหน้า ก้มตา

หมายถึง : ตั้งใจทำบางสิ่งบางอย่าง ทำแบบไม่สนใจไม่มองผู้อื่น

ไม่เอะใจในสิ่งรอบตัว




กบเลือกนาย

หมายถึง : ช่างเลือกจนได้เรื่อง เลือกมาก จนมากความ

อยากเลือกในสิ่งที่ดีกว่าแต่ไปเจอสิ่งที่แย่กว่า

เหมือนว่าลูกน้องผมเหมือนกบเลือกนาย เลย ออกไปหาเงินเดือนที่สูงกว่า

ทำไปทำมาต้องกลับมาทำงานใหม่อกีครั้งเพราะที่ทำงานใหม่จ่ายหนักแต่

งานก็หนักมากด้วย

ไก่กินข้าวเปลือก, ใกล้เกลือกินด่าง

ไก่กินข้าวเปลือก, ใกล้เกลือกินด่าง




ไก่กินข้าวเปลือก

หมายถึง : "ตราบใดที่ไก่ยังกินข้าวเปลือก ตราบนั้นคนก็ยังอดกินสินบนได้"

เปรียบกับคนที่รับสินบนค่าตอบแทน ยังไง ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง




ใกล้เกลือกินด่าง

หมายถึง : ด่างนั้นมีราคาด้อยและรสชาติด้อยกว่าเกลือ

ประมาณว่ามกล้ของดีกว่าแต่กลับไม่สนใจไปสนใจของไกลๆ

ทั้งๆที่สู้ ของที่อยู่ใกล้กว่าไม่ได้เลย เหมือนมีของดีมาให้คว้า

เอาไว้กลับไม่ใส่ใจ

เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน, แกว่งเท้าหาเสี้ยน

เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน, แกว่งเท้าหาเสี้ยน

เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน

หมายถึง : เก็บเล็กผสมน้อย เก็บนู่นเก็บนี้ ทีละเล็กทีละน้อย

จนสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน เกิดเป็นรูปเป็นร่างได้สำเร็จ



แกว่งเท้าหาเสี้ยน

หมายถึง : อยู่ดีไม่ว่าดี ชอบสอดเรื่องชาวบ้านยุ่งเรื่องคนอื่นไม่เป็นเรื่อง

รนหาที่ โดยไม่จำเป็น จนกลายเป็นเรื่องโดนกับตัวเองจนได้

กรวดน้ำคว่ำขัน, กินที่ลับ ขับที่แจ้ง

กรวดน้ำคว่ำขัน, กินที่ลับ ขับที่แจ้ง

กรวดน้ำคว่ำขัน

หมายถึง : ตัดขาดไม่ขอยุ่งเกี่ยว  เกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาด

เหมือนกวดน้ำคว้ำขัน ส่งๆไปไม่ต้องมาพบเจอเกี่ยวข้องกันอีก


กินที่ลับ ขับที่แจ้ง

หมายถึง : การเปิดเผยเรื่องลับๆ เรื่องที่ทำกันในที่ลับเรื่องส่วนตัวของ

กันและกันแต่เอามาเปิดเผย

กำขี้ ดีกว่า กำตด

กำขี้ ดีกว่า กำตด

หมายถึง : เป็นคำพังเพยเปรียบเทียบให้เห็นว่า

โอกาศที่มีเล็กน้อยๆ จงคว้าไว้ดีกว่าไปหวังไขว่คว้า

ในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ คว้าทุกโอกาส ที่มี

กลิ้งครกขึ้นภูเขา

กลิ้งครกขึ้นภูเขา 

หมายถึง : การทำอะไรอย่างยากลำบาก เกินตัวมากเกินไป

เปรียบเหมือนการ กลิ้งครกที่หนักมากๆ ขึ้นผู้เขาสูง

ย่อมต้องใช้กำลังมาก และเสียแรงเยอะ

ต้องเค้นเอาความสามารถออกมาให้ได้มากที่สุด

ความหายเดียวกับ เข็นครกขึ้นภูเขา

เกลือเป็นหนอน กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี

เกลือเป็นหนอน กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี



เกลือเป็นหนอน 

หมายถึง : ญาติมิตร สามีภรรยา บุตรธิดา เพื่อนร่วมงาน หรือคนในบ้าน

 คิดคดทรยศคนที่คุ้นเคยไว้ใจให้ทำอะไรต่างๆ ด้วย ทรยศขายความลับ

หรือสิ่งที่ไม่ควรให้คนอื่นที่ไม่ควรจะรู้ได้รับรู้ หรือทำลายองค์กร ของตัวเอง


กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี 

หมายถึง : สำนวนนี้เป็นสำนวนเก่า ใช้เพื่อเชิดชูคนดีมีความสามารถ

ในช่วงที่บ้านเมือง หรือ องค์กร หรือจะเป็นแค่กลุ่มเล็กๆที่อาจจะมีปัญหา

อยู่หลายเรื่องแต่มีคนที่เสียสละ หรือ มาช่วยกอบกู้ เหตุการณ์เหล่านั้น

ช่วยเหลือแก้ไขเปรียบเหมือนกรุงศรีอยูธยาที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบากแต่ก็

อย่างได้ประมาทที่จะบุกเข้าไปหรือแม้แต่กรุงเสียล่มสลายแล้ว

 แต่ก็ยังมีคนดีมีความสามารถอยู่ จงอย่าได้ย่ามใจ เป็นทั้งการเชิดชู

 คนที่เข้ามามีบทบาท ช่วยเหลือแก้ไข ต่างๆ และเป็นการเตือนกลายๆ

แก่ผู้มุ่งร้ายที่จะเข้ามาว่าอย่าชะล่าใจนักที่จะมาสร้างปัญหาให้กลุ่ม

 องค์กร หรือในที่ะดับไหนๆก็ตาม

กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้

กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้

หมายถึง : เป็นสำนวนเปรียบเทียบ หรือจะใช้เป็นำพังเพยได้คือ

การเอางามาคั่วพร้อมกันกับถั่ว งาเป็นของที่สุกง่าย พอเอามาคั่วพร้อมกัน

ถั่วยังไม่ทันสุกงาก็ไหม้ไปเสียแล้ว เอามาเปรียบเทียบเป็นคำพังเพยได้ว่า

กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้

การทำงานในแบบที่รีรอลังเลไม่แน่ใจ จนทำให้งานออกมาไม่ดี

แก้ไขงานได้ไม่ทันท่วงที หรือการทำอะไร 2สิ่งแล้ว ไม่สามารถ

ทำได้ทัน แก้ไขยากและไม่ทันการแล้ว

กินน้ำเห็นปลิง กินปูนร้อนท้อง

กินน้ำเห็นปลิง 

หมายถึง : การที่อยากจะทำอะไรซักอย่าง แต่รู้สึกไม่สบายใจ

ตะขิดตะขวงใจ รู็สึกไม่ดีที่จะทำสิ่งนั้น เพราะมันดูเหมือจนะไม่ดี

ไม่พอ หรือเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ

เปรียบคือ อยากจะกินน้ำแต่ดันเห็นปลิง ทำให้รู้สึกแย่ไม่อยากจะกิน


กินปูนร้อนท้อง

หมายถึง : แสดงอาการมีพิรุธ เดือดร้อนไปเองทั้งๆที่ยังสรุปไม่ได้

ว่ามีอะไรผิด มักใช้ในแง่ลบ คำนี้ วัยรุ่นสมัยนี้หรือ

คำที่เปรียบในสมัยนี้คือ คำว่า "ดิ้นไปเอง" 

ที่มาคือ ตุ๊กแกออกหากินตอนกลางคืน มีเด็กเอาปูนไปล่อ

แหย่ๆให้ตุ๊กแก โมโหจึงงับเข้าปูนลงท้องไป หลังจากนั้นเมื่อมีความปกติ

ตุ๊กแกเลยร้องถี่ไม่หยุด

(ขนาดตุ๊กแกที่บ้านเอาไม้ไล่มันไปมันยังร้องขู่ไม่หยุดเหมือนกัน)

อาการนี้ เลยเป็นที่มาเอามาเปรียบเทียบสำนวนได้เช่น

แหม่ ยังไม่ทันพูดอะไรเลยเธอ ทำตัวเป็น ตุ๊กแกกินปูนร้อนท้องไปได้

กระโถนท้องพระโรง กระสือตอมห่า

กระโถนท้องพระโรง

หมายถึง : ในความหมายของสำนวนไทย  คนที่โดนไครๆ

ก็ได้ใช้อยู่คนเดียว โดนรุมใช้อยู่คนเดียว

เปรียบเทียบ เหมือน กระโถนที่ตั้งไว้ในท้องพระโรง

ที่บรรดาขุนนาง ลูกขุน หรือสำหรับไครๆก็ได้ที่

บ้วนน้ำหมาก หรือทิ้งชานหมากลงมาได้หมด


กระสือตอมห่า

หมายถึง : ใช้เรียกคนหรือกลุ่มคนที่ รุมมาหาผลประโยชน์

อะไรซักอย่าง

(ความหมายไม่ค่อยดี เหมือนอีแร้งรุมทึ้ง)

กินเศษกินเลย กินสำรับ

สำนวนไทย สุภาษิต คำพังเพย กินเศษกินเลย  กินสำรับ


กินเศษกินเลย 

หมายถึง : การยักยอก ผลผระโยชน์จากหน่วยงาน หรือของๆคนอื่นมาเล็กน้อย

เอาส่วนที่เหลือๆมาเป็นของตน อาจจะน้อย แต่หลายๆครั้งก็เป็นมากมายมหาศาล

ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น

ฉันไม่รู้ว่า นางสาว คำพังเพย กินเศษกินเลย ในเทศบาลไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว


กินสำรับ

หมายถึง : ก. กินอาหารที่เขาจัดมาเป็นสํารับ (สำ) กินอาหารอย่างดี.


สำนวนไทย สุภาษิต คำพังเพย ก่อนหน้านี้ 


กระดูกสันหลังของชาติ ,กระดูกแข็ง ,กระดูกร้องไห้

หมวด ก - ฮ

หมวดหมู่ ก ข ฃ ค ฅ ฆ ง

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ก.ไก่

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ข.ไข่

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ค-ฆ

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ง-จ

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด  ช ซ ญ ฒ

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ด.เด็ก

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ต.เต่า

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ถ - ท - ธ

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด น.หนู

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด บ.ใบไม้

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ป.ปลา

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ผ.ผึ้ง

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ฝ.ฝา

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด พ-ฟ

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ม.ม้า

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ย ร ฤ

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ล.ลิง

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ว ศ ส

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ห.หีบ

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด อ.อ่าง

----

✅ 2,000 สำนวนไทย โดย พ.ศ.พัฒนา

✅ เมื่อตะวันตกล่าอาณานิคม ศตวรรษที่ 15-19

✅ คู่มืออ้างอิงภาษาไทย ราชบัณฑิต เขียนอย่างไร

✅ 1,500 สำนวนสุภาษิตคำพังเพยไทย

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ก.ไก่

สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ก.ไก่

กระต่ายหมายจันทร์  กระต่ายขาเดียว กระต่ายสามขา

กินสำรับ

กระดูกสันหลังของชาติ ,กระดูกแข็ง ,กระดูกร้องไห้

กระต่ายแหย่เสือ 

กระสือตอมห่า


กำขี้ ดีกว่า กำตด

แกว่งเท้าหาเสี้ยน

ไก่กินข้าวเปลือก, ใกล้เกลือกินด่าง

ก้มหน้า ก้มตา, กบเลือกนาย

 เก๋าเกมส์

กระจอกงอกง่อย, กระจัดพลัดพราย

ก ข ไม่กระดิกหู , เกี่ยวก้อย

กระดกกระดนโด่ , กินน้ำไม่เผื่อแล้ง

กระเทือนซาง , กระแตวับ

กลมเป็นลูกบิลเลียด , กลมเป็นลูกมะนาว

กล้วย กล้วย , กลัวดอกพิกุลร่วง

กลับมาตายรัง , กล้านักมักบิ่น

กลับหน้ามือเป็นหลังมือ , กินบุญเก่า

กลางเก่ากลางใหม่ , กลับเนื้อกลับตัว

กลิ้งเป็นลูกมะนาว , กลีบเดียวกระเทียมโทน

กลืนไม่เข้าคายไม่ออก , กินเหมือนหมู อยู่เหมือนหมา

กวนน้ำให้ขุ่น , กวัดไกวไสส่ง

กอดเข่า , เกลือจิ้มเกลือ

กอดเข่าเจ่าจุก , กอดมือกอดตีน

กอดแข้งกอดขา , ก่อกรรมทำเข็ญ

ก่อร่างสร้างตัว , กะโหลกกะลา

ก่อแล้วต้องสาน , กิ่งก้อย

กัดก้อนเกลือกิน , กัดหางตัวเอง

กันท่า , กาคาบพริก

กาฝาก , กาในหมู่หงส์

กำปั้นทุบดิน , กำเริบเสิบสาน

กำแพงมีหูประตูมีช่อง , กำแพงมีหูประตูมีตา

กำลังกินกำลังนอน , กิ่งทองใบหยก

กิ้งก่าได้ทอง , กินเกลือกินกะปิ

กินแกงร้อน , กินของเก่า , กินขาด

กินแกลบกินรำ , กินข้าวลิง

กินขันหมาก , กินข้าวร้อนนอนตื่นสาย

กินน้ำพริกก้นถ้วย , กินบ่อนนอนบ่อน

กินบ้านกินเมือง , กินรังแตน

กินเรียบ , กินตามน้ำ

กินลมกินแล้ง , กินล้างกินผลาญ

กินเส้น , กินเหล็กกินไหล

กู่ไม่กลับ,กู้หน้า,เก็บดอกไม้ร่วมต้น

เก็บเล็กผสมน้อย , เกเรเกตุง

เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง , กาหลงรัง

เกี่ยวดองหนองยุ่ง , เกลือกกลั้ว

เกี่ยวแฝกมุงป่า , กินข้าวต้มกระโจมกลาง

แกงจืดรู้คุณเกลือ , แก่มะพร้าวห้าว

แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน , แก้วลืมคอน

แกะดำ , ไกลปืนเที่ยง , ไก่แก่แม่ปลาช่อน

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง , กระดูกขัดมัน

ไก่ได้พลอย , ไก่โห่ , ไก่อ่อน

ไก่บินไม่ตกดิน , ไก่รองบ่อน , ไก่หลง

ไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่ , กินอยู่กับปาก อยากอยู่กั...

ไก่อ่อนสอนขัน , กงกรรมกงเกวียน

กลเม็ดเด็ดพราย

ใกล้ชาดเปื้อนแดง ใกล้หมึกเปรอะดำ

กินเศษกินเลย

กระชังหน้าใหญ่

กระเชอก้นรั่ว

กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา

กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้

กินน้ำใต้ศอก

กระต่ายตื่นตูม

กบในกะลา (กบในกะลาครอบ )

กินน้ำเห็นปลิง

กลับมาตายรัง

กินน้ำตาต่างข้าว

กงเกวียนกำเกวียน

ก้นกุฏิ

กดหัว

กระดังงาลนไฟ

กระดี่ได้น้ำ 

กินดิบ

กินนิ่ม

กินน้ำตา

กินปูนร้อนท้อง

กระโถนท้องพระโรง

กรวดน้ำคว่ำขัน

กินในที่ลับ ขับในที่แจ้ง

เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน

กลิ้งครกขึ้นภูเขา 

กกเสา 

กฎบัตร 

กระดูกสันหลังของชาติ ,กระดูกแข็ง ,กระดูกร้องไห้

กระดูกสันหลังของชาติ,กระดูกแข็ง,กระดูกร้องไห้


กระดูกสันหลังของชาติ

หมายถึง :คำนี้คือคำเปรียบความสำคัญของ ชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ

ผู้ผลิตอาหาร ปัจจัยหลักของประเทศและของโลกใบนี้



กระดูกแข็ง

หมายถึง : ตายยากไม่ตายง่ายๆ ประมาณว่า เจอเหตุหารณ์ร้ายๆ

อาจเป็น อันตรายถึงชีวิต แต่สามารถรอดมาได้

หรือใช้ใน สถานการณ์เช่น ไอเจ้าสำนวนไทย

มันกระดูกแข็งจริงๆ แกล้งมันยังไงก็รอดมาได้ตลอด



กระดูกร้องไห้

หมายถึง : การจับตัวฆาตกรมาลงโทษได้หลังจากพบหลักฐานโดยบังเอิญ


ตัวอย่าง "คดีฆาตกรรมนี้เหมือนกระดูกร้องไห้ เลยนะ ใครจะนึกว่าจะจับ

ตัวฆาตกรได้เรื่องล่วงเลยมาถึงสิบปีแล้ว"



สำนวนไทย สุภาษิต คำพังเพย ก่อนหน้านี้ 

กระชังหน้าใหญ่ กระเชอก้นรั่ว

กระชังหน้าใหญ่ กระเชอก้นรั่ว

กระชังหน้าใหญ่

หมายถึง : จี๊ดจ๊าด จัดจ้าน ออกหน้ารับทุดอย่าง

ออกตัวแทน แม้แต่กระทั้งเรื่อง ออกตัวแทน หรือค่าใช้จ่ายเรื่องเงิน

ก็อาจจะรวมเข้าไปด้วย


กระเชอก้นรั่ว

หมายถึง : สำนวนโวหาร นี้ใช้กับคึนที่ ชอบใช้จ่าย สุรุ่ยสุร่าย

ไม่รู้จักเก็บหอมรอบริบ สิ้นเปลืองไม่รู้จักประหยัด

อาจจะเปรียบ กับสาวๆที่ ใช้จ่ายฟุ่ยเฟือยก็ได้ว่า แม่กระเชอก้นรั่ว 


สำนวนไทย สุภาษิต คำพังเพย ก่อนหน้านี้ 



กระดังงาลนไฟ กระดี่ได้น้ำ

กระดังงาลนไฟ กระดี่ได้น้ำ

สำนวนไทย 

กระดังงาลนไฟ

หมายถึง : สำนวนและคำพังเพย ใช้เปรียบเทียบ ผู้หญิงที่เคย ผ่านการมีสามีหรือ

แต่งงานมาแล้วย่อมรู้จักวิธีเอาอกเอาใจ ปรนนิบัติดูแลเอาใจใส่ ให้แก่ผู้ชาย

ได้ดีกว่าผู้หญิงที่ยังไม่เคยผ่านผระสบการณ์

การแต่งงานหรือผ่านผู้ชายมาก่อน


กระดี่ได้น้ำ

หมายถึง : เป็นสำนวน ว่าโดยการที่มีอาการดีใจจนออกนอกหน้า ดีใจมาก

จนผิดปกติอาการดีใจจนเนื้อเต้น ซึ่งใช้การเปรียบเทียบกับปลากระดี่ที่เวลา

อยู่ในที่น้ำน้อยพอได้น้ำลงมาก็กระโดดไปมา เกินเหตุเลยนำมาใข้กับ

สำนวนกระดี่ได้น้ำกับคนที่มีอาการอย่างที่บอกในข้างต้น


สำนวนไทย สุภาษิต คำพังเพย ก่อนหน้านี้ 


กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา

กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา

สำนวน และคำพังเพย 

กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา


หมายถึง : เป็นสำนวน คำพังเพย ที่ บอกถึงการ เนรคุณดีดีนี่เองครับ

ถ้าในสมัยก่อนความหมายจะค่อนข้างตรงๆตัวว่า กินบนบ้านเขา ทำประโยชน์

หรือ สุขสำราญในที่ของเขา แต่กลับสร้างความเดือดร้อน ทำเรื่องเสียๆหาย

ให้เจ้าของบ้าน เช่น อยู่บ้านเขาแต่ไปนินทาคนในบ้านให้คนในบ้านให้

คนภายนอกฟังหรือ ทำงานในบ้านเขาแต่ดันไปขโมยทรัพสินของเขาซะอย่างงั้น

ปัจจุบันคำนี้ได้ถูกใช้ในหลายๆโอกาศ ส่วนใหญ่จะใช้ในทางที่ กล่าวหาผู้ที่

ไม่รู้จักบุญคุณของ คนที่ให้โอกาศ เนรคุณ หรือ จะใช้ในแนวที่ว่า

ต้องพึ่งพาเขาแต่ดันไปทำร้าย ทำให้เขาเดือดร้อน แบบตั้งใจเช่น

นาย สุภาษิต มาอาศัยบ้านของพ่อแม่ ของเด็กชาย สำนวนไทย อยู่

แต่ดัน ไปพาพักพวกมาขโมยของบ้านเขา เพราะอยากได้อยากมีเป็นต้น

กระต่ายหมายจันทร์ กระต่ายขาเดียว กระต่ายสามขา

กระต่ายหมายจันทร์  กระต่ายขาเดียว กระต่ายสามขา

กระต่ายหมายจันทร์  หมายถึง ผู้ชายหมายปองผู้หญิงที่มีฐานะดีกว่า.

- ตัวอย่าง ดูสาวบ้านนั้นดิจัดว่าสวยที่สุดในอำเภอ เป็นลูกสาวนายอำเภอด้วย

สมบัติเก่าก็มาก พ่อก็ข้าราชการ แม่ก็เจ้าของร้านทอง สวย พร้อมขนาดนี้

รออะไรอยู่ละ จะมัวจ้องไปทำไม เดี๋ยวก็โดนหมาคาบไปกินหรอก ชักช้าแบบนี้

กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ กันพอดี เดี๋ยวนี้เขาไม่มีแล้วนะ ไอพวกกระต่ายหมายจันทร์

อย่าไปกลัวไม่คู่ควร อะไรอะแบบยุคเก่าๆสมัยนี้ใจและความจริงใจล้วนๆ 

ไปดิอย่าไปหยอง เอ็งก็ไม่ใช่พวก ไม่เข้ายา ซะที่ไหน ก็พอตัวนะเว้ย

ผู้ชายหมายปองผู้หญิงที่มีฐานะดีกว่า อยู่ในฐานะที่สูงกว่าตน

ผู้หญิงที่ไม่เหมาะสมกับตน ในแง่ที่ตัวผู้ชายนั้นต่ำต้อยกว่า 

มักใช้ในแง่ที่ต่างกันมากๆ หรือบางครั้งการใช้คำนี้ ก็เหมือนการดูถูกเหยียดหยาม

แม้ว่าตัวผู้ชายนั้นจะไม่ได้ต่ำต้อยขนาดนั้น อาจจะเพราะผู้ใช่ไม่ชอบเลยใช้

ปัจจุบันคำนี้มักจะมีอยู่ในหนัง หรือละครทั่วไปซะมากกว่า

ในชีวิตจริงหาใช้ได้น้อยมาก เพราะเป็นคำดูถูกจากคนอื่น

หรือลดทอนคุณค่าในตัวเองจากคำพูดที่ตัวเองพูด เดี๋ยวนี้โลกเปิดกว้าง

จะอยู่ระดับไหนก็คนเหมือนกัน อาจมีคนคิดในแนวนี้ได้แต่ก็ไม่เยอะมากแล้ว

ใครคิด พูด แล้วดังเป็นข่าว ทัวร์ลงได้ง่ายๆ หรืออาจจะโดนหาว่ามั่นหน้าเหลือเกิน

อะไรทำนองนี้ เป็นคำที่ถ้าคนอื่นพูดใส่เราเหมือนการดูถูกคน

เป็นคำที่ถ้าเราพูดใส่ตัวเองคือเจียมตัวหรือออกแนวถ่อมตนมากเกินไป

กระต่ายขาเดียว หมายถึง ถ้าเป็นคำเฉยๆ คือาการละเล่น แต่ถ้าเป็นใช้คู่กับคำว่า ยืน เป็น 

ยืนกระต่ายขาเดียว แปลว่า ยืนกราน ยืนยันในสิ่งนั้น เลือกที่จะยืนยันคำเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง 

ยืนกรานไม่ยอมรับ ซึ่งมีความหมายเดียวกันกับ กระต่ายสามขา 

- ตัวอย่าง เขาไม่ยอมรับผิด แม้หลักฐานจะมัดขนาดนี้ ยังยืนยันกระต่ายขาเดียว

ว่าตัวเองนั้นไม่ได้ทำ เขาแคบอกว่านาย เอ กระต่ายตื่นตูมไปเองจนเกิดอุบัติเหตุ

เขาไม่ได้ไปทำอะไรให้เลย เขาจะทำตัวเป็นกระต่ายแหย่เสือไปปทำไม ในเมื่อนายเอนั้น

มีอำนาจบารมี และยิ่งใหญ่สามารถให้โทษเขาได้ทุกเมื่อ

กระต่ายหมายจันทร์  กระต่ายขาเดียว กระต่ายสามขา

รวบรวมสุภาษิต คำพังเพย และสำนวนไทยเอาไว้

กระต่ายหมายจันทร์

หมายถึง : ชาย ผู้ต่ำต้อย ไปชอบ หญิงที่สูงศํกดิ์กว่า

เปรียบผู้ชาย กระต่าย

เปรียบผู้หญิง ดั่งดวงจันทร์

ใช้เมื่อ ชายที่ฐานะโดยรวม แย่กว่าฝ่ายหญิง แต่ดันไปหลงรัก

ชอบในตัวหญิงที่ฐานะสูงกว่าตน




กระต่ายขาเดียว

หมายถึง : เป็นการละเล่นไล่จับประเภทหนึ่ง โดยผู้ที่ถูกเรียกว่าเป็น

"กระต่าย"เอ้อไม่ใช่ละนั่นการละเล่น นี่เรากำลังพูดถึงสำนวน สุภาษิต

 คำพังเพยกันนะเห้ย เอาละความหมายของคำนี้ ง่ายๆเลย

 คือการยืนกรานในสิ่งนั้นอย่างแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง เช่น นาย สุภาษิต

 ยืนยันว่าเขาไม่ได้ขโมยกางเกงในของ นางสาวคำพังเพยไปแน่นอน

อาจจะใข้คำว่ายืนกระต่ายขาเดียวซึ่งเรื่องนั้นจะ จริงหรือเท็จก็สามารถ

ใช้คำนี้ได้ถ้าการใช้เป็นไปในทางที่ยืนยันอย่างเข้มแข็งและมั่นคงการยืนยัน

การเถียง การโต้แย้งที่มายังสรุปไม่ได้ว่า เป็นยังไงกันแน่

ระหว่างเด็กวัด แอบเอากระต่ายที่ญาติโยมนำมาถวายพระ

เถียงกัน 2 แหล่งคือ เด็กวัด กินขากระต่ายย่างไป 3ขา

เลยเหลือขากระต่ายแค่ขาเดียวกับเด็กวัด ยืนยันว่ากระต่ายมี 3ขา ทั้งๆที่

ตัวเองกินไป 1ขาซึ่งทั้ง 2 เรื่องเล่าก็บ่งชี้ว่า เด็กวัดนั้น ยืนยันเสียงแข็ง

โต้เถียงว่าตัวเองไม่ได้เอาขากระต่ายไปย่างกิน ซึ่งมันเลยมีคำว่า

กระตายสามขา เกิดขึ้นมาในความหมายเดียว

กันกับกระต่ายขาเดียวด้วย


สำนวน สุภาษิต คำพังเพย หมวด ก.ไก่

เอาไปลองค้นหาคำที่ต้องการ ดูในหมวด ก.ไก่กันได้

กินน้ำใต้ศอก กินน้ำตาต่างข้าว

กินน้ำใต้ศอก กินน้ำตาต่างข้าว

สำนวนไทย คำพังเพย

กินน้ำใต้ศอก

หมายถึง : เป็นสำนวนที่ สื่อไปในทาง ทำอะไรซํกอย่างที่ ต้องเป็นรองเขาโดย

จำยอมตำแหน่งไม่ได้ทัดเทียมคนอื่น เป็นรองอย่างขัดเจน ซึ่ง ส่วนใหญ่จะใช้

สำหรับการครองคู่ที่ผู้ หญิง ต้องตกเป็นภรรยาน้อย เป็นรองภรรยาหลวง

ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ใช้ในเชิงบอกเล่าแต่ ต้องระวังคำนี้อาจจะกลายเป็น

เหยียดหยาม ผู้อื่นได้ เช่น นางสาว คำพังเพย   ไม่รู้คิดยังไงยอมกินน้ำใต้ศอก

คนอื่นทั้งๆที่หน้าตาก็อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ฉะนั้นต้องระวังในการใช้คำนี้



กินน้ำตาต่างข้าว

หมายถึง : ความหมายนี้คือการโศกเศร้าเสียใจ จนไม่เป็นอันกิน ร้องไห้ฟูมฟาย

จากการเสียใจ อาจจะมาจากการกินน้ำใต้ศอก จากความหมายด้านบน

สุภาษิต

กระต่ายตื่นตูม กระต่ายแหย่เสือ

สำนวน กระต่ายตื่นตูม กระต่ายแหย่เสือ 

กระต่ายตื่นตูม

หมายถึง : สำนวยเอ้ย สำนวน ใช้เปรียบเทียบ คนที่ ขี้ตกใจ

ตื่นตระหนกตกใจเกินเหตุ จนไม่ได้ดูความจริงเหตุการณ์จริงๆ

ให้ดีเสียก่อน แต่ตีโพยตีพายไปต่างๆนานาแล้ว จนมีนิทาน

เล่าเรื่อง ลูกมะพร้าวหรือลูกตาล (แล้วแต่บางที่จะเล่า)

ตกลงมายัง ที่กระต่ายนอน อยู่ ด้วยความตกใจตีโพยตีพาย

ประกาศก้องว่า ฟ้าถล่มดินทลาย พาสัตว์ใหญ่น้อยตกใจ วิ่งวุ่นกันทั่วป่า

สุดท้ายความจริงเป็นแค่ ผลของต้นมะพร้าวตกมาใต้ต้นที่กระต่ายนอน

เป็นสำนวนที่ใช้สอนว่า อย่า ตระหนกตกใจอะไรเกินเหตุ ควรหา

สาเหตุให้พบเสียก่อนจะ ทำอะไรวุ่นวายลงไป

กระต่ายแหย่เสือ 

หมายถึง : คนเล็ก หรือคนที่มีอำนจบารมีแม้กระทั่งการต่อรอง

ที่ด้อยกว่าไปยั่วยุหรือไปท้าทายอำนาจคนที่ใหญ่โตกว่า

มีอำนาจบารมีมากกว่า พูดกันง่ายๆว่า เด็กชาย สุภาษิต สำนวนไทย  

ไปยั่วคุณครูตอนกำลังสอนทำเป็นไม่สนใจฟัง กวนทีนคุณครู

ผลสุดท้ายคงรู้นะครับว่าจะเกิดอะไร ง่ายก็ลองของนั่นเอง

กินดิบ กินนิ่ม กินน้ำตา

กินดิบ  กินนิ่ม กินน้ำตา

กินดิบ

หมายถึง : การชนะโดยง่าย การเอาชนะโดยง่ายดาย ไม่เหนื่อยยากเย็น

ใน ภาษาถื่นทางใต้ ใช้เรียกกล้วยพันธ์หนึ่ง ด้วยเช่นกัน

กินนิ่ม

หมายถึง : สื่อไปในทางเดียวกันกับ กินดิบ คือ การชนะคู่แข่งหรือทำอะไร

ได้มาแบบง่ายๆ ไม่ต้องลงแรงมาก เช่น เด็กชาย สุภาษิต สำนวนไทย 

เล่นหมากรุก ชนะแบบกินนิ่ม สบายตัวไปแล้ว

กินน้ำตา

หมายถึง : (สำนวน) ร้องไห้ เศร้าโศก. เช่น วรวีย์ พ่ายแพ้แก่ความรัก

จนต้องนอนกินน้ำตาอยู่หลายวัน บริบทของคำนั้น ดูจะอาการหนักเลย